บริหารเครดิต เพื่อชีวิตที่ดีกว่า กับ Use Credit Wisely

• วิธีใช้บัตรเครดิตอย่างฉลาด

  • กรุณาจดจำไว้ตลอดเวลาว่า บัตรเครดิตไม่ใช่รายได้เพิ่มเติมสำหรับคุณ
  • อย่าถือบัตรเครดิตหลายๆใบ ซึ่งจะกลายเป็นความยากลำบากที่ต้องคอยติดตามการใช้เงินของคุณ
  • ช๊อปปิ้งอย่างระมัดระวังเมื่อคุณจะใช้บัตรเครดิตทั้งที่คุณสามารถใช้เงินสดได้ ถ้าคุณใช้จ่ายบัตรในชีวิตประจำวัน คุณควรชำระเต็มทุกเดือน
  • เก็บรักษาข้อมูลบัตรเครดิต (รวมไปถึงเบอร์โทรศัพท์เผื่อฉุกเฉินดังที่ประกาศไว้ในผู้ให้บริการบัตรเครดิต) ในที่ปลอดภัย กันไว้ในกรณีที่บัตรสูญหายหรือถูกขโมย
  • อย่ายืมเงินจากบัตรใบหนึ่งไปชำระบัตรอีกใบ พยายามตั้งค่าใช้จ่ายไว้ไม่ให้เกินจำนวนที่คุณกำหนดไว้บนบัตรเครดิต

• เทคนิคการเลือกสินเชื่อส่วนบุคคล

  • มีไอเดียที่ชัดเจนเกี่ยวกับความต้องการของคุณ วางแผนค่างวดผ่อนชำระที่คุณสามารถรับภาระมันได้ อย่าไว้วางใจเกี่ยวกับอนาคตของรายได้ที่อาจไม่แน่นอน หรือยืดระยะเวลาการผ่อนชำระมากเกินไป จงวางแผนอย่างฉลาด
  • ลองมองหาข้อเสนอที่ดีที่สุดและเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย อย่าเข้าใจแค่เพียงคำชักชวน พยายามเข้าใจข้อตกลงก่อนที่คุณจะยอมรับมัน และอย่าเซ็นเอกสารเปล่า
  • อย่างน้อยเงินค่างวดของคุณควรมีอยู่ในบัญชีของคุณ ณ สิ้นเดือนเสมอ และเนื่องจากการผ่อนชำระเป็นจำนวนเงินคงที่ตลอด การมีวินัยง่ายๆ ที่จะไม่จ่ายเช็คคืนและโดนค่าปรับ
  • ติดต่อธนาคารหรือบริษัทฯ ที่ดำเนินการเพื่อแจ้งที่อยู่ปัจจุบันหรือเบอร์โทรศัพท์เมื่อคุณมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลดังกล่าว เพราะคุณอาจพลาดข่าวสารที่สำคัญได้

• SME Credit

  • อย่าใช้จ่ายกำไรของกิจการของคุณจนกว่าคุณได้รับรู้เงินนั้นจริง
  • อ่านตัวพิมพ์เล็กๆ ที่อยู่ด้านล่างของข้อเสนอสินเชื่อ และหาข้อเสนอที่ดีที่สุด
  • คุณสามารถใช้บัตรเครดิตสำหรับการดำเนินธุรกิจ แต่ต้องมั่นใจว่าคุณบันทึกไว้อย่างชัดเจนและเก็บใบเสร็จรับเงินเพื่ออธิบายรายการจ่ายเงินที่เกิดขึ้น
  • กำหนดงบประมาณการชำระเครดิต เพื่อที่คุณจะไม่ต้องรับภาระมากเกินที่คุณจะชำระเงินคืนได้
  • เก็บรายการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตให้เหมือนเวลาคุณใช้จ่ายผ่านเช็คเรียกเก็บ
  • ติดตามการชำระเงินของลูกค้าและคู่ธุรกิจของคุณอย่างใกล้ชิด เพื่อรักษากระแสเงินสดของคุณเอาไว้ให้เคลื่อนไหวดี
• สินเชื่อบ้าน

  การตัดสินใจที่จะซื้อบ้านใหม่

  • จัดให้การเงินคุณมีระบบ งบประมาณของคุณจะช่วยให้คุณตัดสินใจเกี่ยวกับขนาดของบ้านและที่ตั้งของบ้านของคุณ อย่าเพิ่มขนาดมากกว่ากำลัง ถ้าคุณซื้อบ้านขนาดใหญ่เกินไปคุณจะไม่มีเงินเหลือสำหรับการดูแลรักษา การตกแต่ง หรือเก็บเงินไว้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ
  • มั่นใจว่าคุณต้องการอะไร และอย่าปรึกษาผู้คนมากเกินไป ให้เลือกเพียง 1-2 คนที่จะปรึกษาให้ความเห็นในกรณีที่คุณต้องการความเห็นเพิ่มเติมเท่านั้น

  การเลือกผู้ให้สินเชื่อ

  • ให้คุณมองหาที่ๆดีที่สุด ลองสอบถามเพื่อเปรียบเทียบอัตราที่ดีที่สุดโดยไม่สนใจคำโฆษณากล่าวอ้างที่สวยหรู
  • อ่านและทำความเข้าใจในข้อตกลงของสัญญาก่อนที่จะตัดสินใจ อย่าเซ็นเอกสารเปล่า และต้องขอสำเนาของสัญญาเอาไว้และเก็บไว้ในที่ปลอดภัยเพื่ออ้างถึงในอนาคต
  • สอบถามอัตราค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกิดขึ้น และข้อคำอธิบายจากผู้ให้บริการในรูปแบบเป็นลายลักษณ์อักษรเมื่อคุณไม่เข้าใจ
  • ให้ทำประกันภัยไว้กับสินเชื่อบ้าน ซึ่งจะช่วยปกป้องครอบครัวของคุณจากการชำระหนี้ในกรณีเกิดเหตุสุดวิสัย เมื่อคุณรับสินเชื่อแล้ว

• จำนวนเงินที่ฉันต้องการจ่ายขั้นต่ำอย่างน้อย 20% หรือมากกว่าจากเงินที่ได้รับ นี่ยังไม่รวมค่าเช่าบ้านหรือค่างวดผ่อนบ้าน
• ฉันใช้เงินล่วงหน้าจากบัตรใบหนึ่งเพื่อไปจ่ายบัตรเครดิตใบอื่น
• ฉันจ่ายเพียงขั้นต่ำที่ต้องชำระในงวดนั้นหรือน้อยกว่าในบางเดือน
• ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้ฉันมีหนี้แค่ไหนแล้ว
• ฉันได้รับโทรศัพท์หรือจดหมายจากผู้ปล่อยสินเชื่อเกี่ยวกับการชำระล่าช้า
• ฉันจ่ายเงินล่าช้าบ่อยๆ
• ฉันได้รับการปฏิเสธการปล่อยกู้
• รายได้ของฉันไม่เพียงพอต่อการชำระค่างวดต่างๆในตอนนี้
• ฉันมีบัตรเครดิตมากกว่า 3 ใบและใช้ทุกใบ
• การใช้จ่ายได้รับการปฏิเสธ เพราะฉันได้จ่ายเกินกว่าวงเงินที่ได้รับ
• ฉันต้องใช้บัตรเครดิตเพื่อใช้จ่ายสิ่งของต่างๆ ทั้งที่ฉันเคยจ่ายด้วยเงินสด
• ฉันมีบัตรเครดิตอย่างน้อย 3ใบและฉันยังคงสมัครใบต่อไปเรื่อยๆ

หากคุณมีคุณสมบัติตามข้อความข้างต้นอย่างน้อย 2 ข้อขึ้นไปแสดงว่าถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องจริงจังกับการใช้เงินของคุณ

การบริหารเงินส่วนบุคคล
ตั้งจุดหมายสำหรับการเงินของคุณและครอบครัว

1. วางแผนการเงินของคุณเอง

2. การตั้งงบประมาณ

3. ชำระค่างวดให้ตรงเวลา

4. เก็บออม

ครอบครัวของคุณและการเงิน
สมาชิกในครอบครัวทุกคนจำเป็นที่จะต้องเข้าใจความสำคัญของการออม คู่สมรสและตัวคุณจะต้องร่วมกันบริหารเงินของครอบครัว เนื่องจากรูปแบบการใช้จ่ายและลำดับความสำคัญมีการเปลี่ยนแปลงอย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณจะต้องเปิดให้มีการสนทนาในระหว่างสมาชิกในครอบครัวเพื่อให้เข้าใจความต้องการทางการเงิน เป้าหมาย และวิธีที่จะให้บรรลุไปสู่เป้าหมายนั้นๆ

• มีการสนทนาเป็นประจำในครอบครัวเกี่ยวกับสภาวะทางการเงิน
• ทำความเข้าใจในกรณีที่จะต้องมีการหยิบยืมจากธนาคารเกี่ยวกับการใช้จ่ายบางรายการที่เกิดขึ้น
• พูดคุยอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับการรายได้และค่าใช้จ่ายอย่างสม่ำเสมอระหว่างกัน
• หลีกเลี่ยงเกมส์ต่อว่ากันเมื่อคุณเผชิญกับความยากลำบากทางการเงิน คุณจำเป็นที่จะต้องแน่ใจว่าบทสนทนาที่เกิดขึ้นเป็นไปในเชิงบวกและทุกคนต้องตกลงมีส่วนร่วมในการออมเงินและหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น

ตั้งจุดหมายสำหรับการเงินของคุณและครอบครัว
ประเมินความต้องการทางการเงินของสมาชิกในครอบครัว แล้วทำการบ้านเพื่อหาว่าพวกคุณจะบรรลุเป้าหมายเหล่านั้นได้อย่างไร ระบุเป้าหมายในอุดมคติสำหรับครอบครัว (การศึกษาของบุตร, ค่างวดผ่อนบ้าน แผนการเกษียณอายุ เป็นต้น )

แบ่งกลุ่มเป้าหมายของคุณออกเป็น

เป้าหมายระยะสั้น
›› คือสิ่งที่คุณคาดว่าจะไปได้ถึงภายใน 1-2 ปี ซึ่งต้องรวมไปถึงการออมเงินได้แต่ละอาทิตย์เพื่อวันหยุด หรือการชำระเงินค่าบัตรเครดิต

เป้าหมายระยะกลาง
›› คื่อเป้าหมายที่คาดว่าจะทำได้ภายใน 3-5 ปี ซึ่งรวมไปถึงการวางดาวน์บ้าน หรือการซื้อเฟอร์นิเจอร์

เป้าหมายระยะยาว
›› คือเป้าหมายที่คาดว่าจะทำได้โดยใช้เวลามากกว่า 5 ปี การเก็บออมเพื่อการศึกษาของบุตร การชำระเงินค่าบ้านก่อนกำหนด หรือการวางแผนเกษียณอายุ เป็นต้น การที่เรามีเป้าหมายเช่นนี้ช่วยให้คุณจัดสรรรายได้เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย และวางค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นไว้ก่อน

วางแผนการบริหารเครดิต

1. วางแผนการเงิน Plan your finances
เมื่อคุณตัดสินใจได้แล้วว่าเป้าหมายทางการเงินของคุณคืออะไร คุณจำเป็นต้องทำแผนดำเนินการว่าคุณจะบรรลุเป้าหมายเหล่านั้นอย่างได้ ให้คุณวางขั้นตอนที่คุณต้องทำเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ออมเงินตั้งแต่วันนี้! เมื่อคุณเริ่มเก็บออมเร็วขึ้นคุณก็สามารถไปถึงเป้าหมายทางการเงินของคุณได้เร็วมากขึ้นเช่นกัน การบันทึกค่าใช้จ่าย
การรับรู้ว่าครอบครัวคุณมีการจ่ายเงินอย่างไรช่วยให้คุณรู้ว่าเงินไปอยู่ที่ไหนและจะกำหนดแผนการเงินเพื่อค่าใช้จ่ายเหล่านั้นได้อย่างไร เพื่อให้เป้าหมายบรรลุผลนั้น ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในแต่ละเดือนรวมไปถึงการจ่ายเงินค่าดอกเบี้ยบนสินเชื่อของคุณ และการชำระเงินผ่านเครดิตหรือเช็คเรียกเก็บ ต้องมีการบันทึกไว้ เมื่อถึงสิ้นเดือน ให้รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดและจัดกลุ่มเป็นค่าใช้จ่ายหลักๆ

2. ชำระค่างวดให้ตรงเวลา
ทันทีที่คุณได้รับวางบิล จำเป็นที่จะต้องตรวจสอบค่าใช้จ่ายที่อยู่ในบิลนั้น และต้องรู้วงเงินที่คุณได้รับ และวันที่ถึงกำหนดชำระ ถ้าคุณได้รับข้อแนะนำจากธนาคารให้ทำการหักบัญชีก็ต้องประเมินความถูกต้องของค่าใช้จ่ายนั้นให้แน่นอน ให้คุณสมัคร SMS หรือ email เพื่อรับรู้ข่าวสารจากผู้ส่งบิล
รวมไปถึงการชำระเงินให้ตรงเวลาเพื่อป้องกันดอกเบี้ยส่วนเกินและค่าใช้จ่ายล่าช้า

3. เก็บออม
ซื้อแต่สิ่งที่คุณสามารถซื้อได้ มั่นใจว่าภาระหนี้ของคุณที่มีสินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิต ไม่เกิน 15% ของรายได้ของคุณที่หักภาษีแล้ว จัดสรรเงินออมจำนวน 10-15% เพื่อเก็บออมหรือสะสมเงินเพื่อการลงทุนทุกๆ เดือน การสมัครหักบัญชีอัตโนมัติจะช่วยให้เงินของคุณถูกโอนไปทุกๆ ต้นเดือนเพื่อสะสมเป็นเงินออมหรือการลงทุน วิธีนี้จะช่วยให้คุณเก็บรักษาเงินที่มีค่าได้ก่อนที่คุณจะใช้มันไป
เมื่อคุณวางแผนที่จะซื้อของราคาแพง เช่น รถยนต์ คุณจะต้องเก็บเงินพิเศษ มากกว่าเงินเก็บปกติ พยายามตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป คุณจะรู้สึกตื่นเต้นเมื่อเห็นเงินออมพอกพูนมากขึ้น ไม่ควรเพิ่มหนี้เพื่อที่จะชำระหนี้เก่าของคุณ
ข้อควรจำ: ไม่ว่าคุณจะยืมเงินผ่านสินเชื่อบุคคล วงเงินสินเชื่อบัตรเครดิต วงเงินเครดิตควรจะถูกใช้เพื่อช่วยให้คุณมีการจัดการทางการเงินที่ดีขึ้น ไม่ใช้เพื่อขยายรายได้ของคุณ

"ข้อความทั้งหมดนี้เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องบริษัทแต่อย่างใด"