- หน้าหลัก
- |
- ศูนย์รวมข้อมูลความปลอดภัย
เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการที่ซิตี้ช่วยรักษาความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงินของท่าน และวิธีที่ท่านสามารถปกป้องตนเองจากการโจรกรรมข้อมูลเพื่อขโมยตัวตน (Identity Theft) รวมไปถึงวิธีป้องกันความเสี่ยงด้านความปลอดภัยอื่นๆ
สำหรับขั้นตอนแรกในการปกป้องบัญชีของท่าน เราจะให้ความรู้แก่ท่านเกี่ยวกับการฉ้อโกงประเภทต่างๆ ตั้งแต่วิธีการตรวจจับและยับยั้งการฉ้อโกง ไปจนถึงขั้นตอนการป้องกันความเสี่ยงจากการฉ้อโกงที่อาจเกินขึ้นล่วงหน้า
ปกป้องตนเองจากการฉ้อโกง
ด้านล่างนี้นำเสนอตัวอย่างการฉ้อโกงบางประเภท และขั้นตอนต่างๆ ที่ท่านสามารถทำได้เพื่อปกป้องตนเองจากการตกเป็นเหยื่อ
ฟิชชิ่ง (Phishing)
อีเมล Phishing หรือที่เรียกกันในนาม Hoax หรือ Spoof คืออีเมลหลอกลวงที่ดูเหมือนว่าถูกส่งมาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วถูกออกแบบมาเพื่อหลอกให้ท่านเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน รายละเอียดบัตรฯ และรหัสผ่านแบบใช้ครั้งเดียว (One-Time PIN หรือ OTP)
วิธีป้องกันการฉ้อโกงแบบฟิชชิ่ง
ระวังอีเมลที่อ้างว่าส่งมาจากซิตี้
- ตรวจสอบที่อยู่อีเมลของผู้ส่งเสมอ
- โปรดจำไว้ว่าซิตี้จะไม่ขอให้ท่านยืนยันการชำระเงินหรือการทำธุรกรรมทางอีเมล
- หากไม่แน่ใจ หลีกเลี่ยงการคลิกลิงก์ที่น่าสงสัยและ ติดต่อเรา
ระวังเว็บไซต์ที่เลียนแบบซิตี้
- ตรวจสอบว่า URL ของ web-link คือ citibank.co.th
- พิมพ์ citibank.co.th ลงในแถบที่อยู่ (address bar) ทุกครั้งบนอินเทอร์เน็ตเบราว์เซอร์
- หากไม่แน่ใจ หลีกเลี่ยงการกรอกข้อมูลส่วนตัวในเว็บไซต์ และ ติดต่อเรา
หลีกเลี่ยงการกรอกข้อมูลส่วนตัวในเว็บไซต์ เว้นแต่ท่านจะเห็นสัญลักษณ์รูปแม่กุญแจและลิงก์ที่ถูกต้อง
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสัญลักษณ์รูปแม่กุญแจปรากฏขึ้นบนแถบที่อยู่บนอินเทอร์เน็ตเบราว์เซอร์
- แถบที่อยู่บนอินเทอร์เน็ตเบราว์เซอร์ของท่านควรแสดง "https" ทุกครั้ง แทนที่จะเป็น "http" เมื่อทำธุรกรรมบนเว็บไซต์ซิตี้แบงก์ออนไลน์
สมิชชิ่ง (SMiShing)
ข้อความ SMiShing ดูเหมือนว่าถูกส่งมาจากบริษัทที่น่าเชื่อถือ และมักมีลิงก์ที่นำท่านไปยังเว็บไซต์หลอกลวง หรือขอให้ท่านโทรออกไปยังหมายเลขแปลกปลอม แม้ว่าท่านจะไม่ได้กรอกข้อมูลใดๆ การคลิกที่ลิงก์อาจนำไปสู่ปัญหาอื่นๆ เช่น การติดตั้งซอฟต์แวร์หรือไวรัสที่เป็นอันตรายเข้าไปยังโทรศัพท์ของท่าน
วิธีการแยกแยะ SMS ที่เป็นอันตราย
ท่านอาจได้รับ SMS จากผู้ฉ้อโกงซึ่งวางตัวเป็นซิตี้ และขอให้ท่านกรอกข้อมูลส่วนตัว เช่นรายละเอียดบัญชีหรือบัตรฯ ของท่าน
ในกรณีส่วนใหญ่ ท่านจะถูกนำไปยังเว็บไซต์หลอกลวงที่มีลักษณะคล้ายกับเว็บไซต์ของซิตี้ ที่ขอให้ท่าน
กรอกข้อมูลดังนี้
- รายละเอียดบัตรฯ
- ชื่อและที่อยู่
- ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน
- One-Time PIN (OTP)
ผู้ฉ้อโกงสามารถใช้รายละเอียดข้อมูลของท่านเพื่อสั่งซื้อสินค้าหรือโอนเงินได้ทันที
วิธีป้องกันการฉ้อโกงแบบสมิชชิ่ง
ระวัง SMS ที่อ้างว่าส่งมาจากซิตี้
- ตรวจสอบทุกครั้งว่า SMS ถูกส่งมาจากหมายเลขของซิตี้ ไม่ใช่หมายเลขน่าสงสัย
- หลีกเลี่ยงการคลิกลิงก์ใน SMS เนื่องจากอาจเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
ผู้ฉ้อโกงสามารถใช้รายละเอียดข้อมูลของท่านเพื่อสั่งซื้อสินค้าหรือโอนเงินได้ทันที
- หากท่านตอบกลับ ผู้ฉ้อโกงจะสามารถใช้วิธีหลอกล่อขอข้อมูลจากท่าน หรือโน้มน้าวให้ท่านให้ข้อมูลส่วนตัว
- ท่านอาจถูกหลอกให้ดำเนินการที่ไม่พึงประสงค์โดยไม่รู้ตัว
ระมัดระวังและตรวจสอบธุรกรรมอย่างสม่ำเสมอ
- ตรวจสอบทุกครั้งว่าท่านตั้งใจทำธุรกรรมบนบัตรฯ หรือไม่
- หลีกเลี่ยงการให้รหัส OTP เพื่ออนุมัติการชำระเงินหากท่านไม่ได้ทำธุรกรรม
- ซิตี้จะไม่ขอ PIN รหัสผ่านหรือ OTP ของท่านผ่านทางโทรศัพท์ อีเมล หรือ SMS*
* ยกเว้นในกรณีที่ท่านมีการติดต่อธนาคารเพื่อทำธุรกรรมทางโทรศัพท์ และเจ้าหน้าที่ต้องการรหัส OTP จากท่านเพื่อยืนยันการทำรายการ
เรามุ่งมั่นที่จะปรับปรุงและพัฒนามาตรการรักษาความปลอดภัยอันหลากหลายของเราอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ท่านมั่นใจทุกครั้งที่ใช้
ซิตี้โมบายล์แอปหรือเว็บไซต์ซิตี้แบงก์ออนไลน์
ความปลอดภัยของเว็บไซต์
-
เอ็นจิ้นการเข้ารหัส SSL (Secure Sockets Layer) แบบ 128 บิตของเรา มีความปลอดภัยระดับมาตรฐานสากล เพื่อให้มั่นใจได้ว่าบุคคลอื่นจะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลของท่าน
- แถบที่อยู่สีเขียวบนเว็บไซต์ของซิตี้ระบุว่าเว็บไซต์ดังกล่าวผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนจากทีมรักษาความปลอดภัยของเรา และได้รับใบรับรองความปลอดภัยที่รู้จักในชื่อ Extended Validation SSL Certificate.
- เพื่อความปลอดภัยของท่าน เราจะระงับการเข้าระบบผ่านทางออนไลน์หากมีการลงชื่อเข้าใช้ล้มเหลวสามครั้ง นอกจากนี้ เราจะระงับการใช้ตู้ ATM หากใส่รหัส PIN ผิดสามครั้ง
- เพื่อให้มั่นใจว่าการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านอินเทอร์เน็ตของท่านปลอดภัย ท่านควรใช้เบราว์เซอร์ที่รองรับและอัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่เสมอ
- ทุกครั้งที่ท่านลงชื่อเข้าใช้บัญชีผ่านซิตี้แบงก์ออนไลน์ วันที่และเวลาของการเข้าใช้ครั้งล่าสุดจะปรากฏขึ้น หากท่านไม่ได้เข้าสู่ระบบ การแจ้งเตือนดังกล่าวจะแสดงว่ามีการเข้าถึงบัญชีโดยไม่ได้รับอนุญาต
แจ้งเตือนรายการน่าสงสัยผ่าน 2-way SMS
เมื่อมีรายการน่าสงสัยเกิดขึ้นบนบัตรเครดิตของท่าน เราจะแจ้งเตือนท่านผ่านระบบส่งข้อความแบบ 2-way SMS กรุณาตอบกลับข้อความเพื่อยืนยันรายการทันที เพื่อความปลอดภัยของบัญชีของท่าน
ระบบแจ้งเตือนรายการน่าสงสัยผ่าน 2-way SMS ทำงานอย่างไร
ข้อความแจ้งเตือนการทำรายการน่าสงสัยจะถูกส่งไปยังหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ท่านลงทะเบียนไว้
- หากท่านได้ทำรายการดังกล่าว ตอบกลับด้วย 1 และบัตรเครดิตของท่านจะยังคงใช้งานได้ตามปกติ
- หากท่านมิได้ทำรายการดังกล่าว ตอบกลับด้วย 2 ซิตี้จะระงับการใช้งานบัตรเครดิตของท่านชั่วคราว และติดต่อท่านเพื่อตรวจสอบรายการที่น่าสงสัยอื่นๆ หรือ
ออกบัตรฯ ใหม่ให้แก่ท่านในกรณีที่จำเป็น
หมายเหตุ
- สำหรับเครือข่าย AIS และ Truemove จะได้รับ SMS จากหมายเลข 4514588
- สำหรับเครือข่าย DTAC จะได้รับ SMS จากหมายเลข 1611588
- ซิตี้จะไม่มีการสอบถามข้อมูลอื่นใด นอกจากการให้ตอบข้อความด้วย "1" หรือ "2" เท่านั้น
- ข้อมูลเพิ่มเติม คลิก
ซิตี้โมบายล์ โทเค็น
- ซิตี้โมบายล์ โทเค็น เป็นฟีเจอร์ในซิตี้โมบายล์แอป ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่เพื่อใช้ยืนยันตัวตนในการทำธุกรรมออนไลน์ แทนการยืนยันตัวตนด้วยวิธีการอื่น เช่นรหัสผ่านแบบใช้ครั้งเดียว (OTP) ผ่านทาง SMS
-
ประโยชน์ของการใช้ซิตี้โมบายล์ โทเค็น
ปลอดภัย
ปกป้องข้อมูลมากขึ้นด้วยรหัสปลดล็อก 6 หลักที่กำหนดด้วยตัวท่านเอง และจำกัดการใช้งานได้เพียง 1 อุปกรณ์เท่านั้น
ทันใจ
เพียงใส่รหัสปลดล็อค 6 หลัก ก็สามารถยืนยันตัวตนเพื่อทำธุรกรรมออนไลน์บนซิตี้โมบายล์แอปได้ทันที โดยไม่ต้องรอรหัสผ่านแบบใช้ครั้งเดียว (OTP) ผ่านทาง SMS
สะดวก
ใช้ยืนยันตัวตนได้สำหรับทุกธุรกรรมออนไลน์ เช่น โอนและชำระเงิน เพิ่มบัญชีผู้รับเงินปลายทาง หรือแก้ไขข้อมูลส่วนตัว
- เพียงตั้งค่ารหัสปลดล็อค 6 หลัก (ซิตี้โมบายล์ โทเค็น) บนมือถือ ท่านก็สามารถใช้ตรวจสอบและยืนยันตัวตนสำหรับทุกธุรกรรมบนซิตี้โมบายล์แอป และซิตี้แบงก์ออนไลน์ได้ทันที เรียนรู้เพิ่มเติม คลิก
- เมื่อตั้งค่าการใช้งานซิตี้โมบายล์ โทเค็นแล้ว กรุณาเก็บรหัสปลดล็อค 6 หลักไว้เป็นความลับ และไม่เปิดเผยรหัสนี้แก่ผู้ใดรวมถึงพนักงานของซิตี้ด้วย
หากท่านพบธุรกรรมที่อาจเป็นการฉ้อโกงบนบัญชี หรือต้องการรายงานว่าได้รับอีเมล ข้อความ หรือเว็บไซต์ ที่น่าสงสัย สามารถทำตามขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนที่ 1
ระงับการใช้บัตรชั่วคราวผ่านซิตี้โมบายล์แอป
- หากท่านทำบัตรหายหรือมีรายการที่น่าสงสัยเกิดขึ้นบนบัตรฯ ท่านสามารถระงับการใช้งานบัตรฯ ชั่วคราวได้ผ่านซิตี้โมบายล์แอป เพื่อป้องกันมิให้ผู้อื่นนำไปใช้ เมื่อต้องการเปิดใช้งานบัตรฯ อีกครั้ง ก็ทำได้ง่ายในไม่กี่คลิกด้วยตนเอง
- ในขณะที่บัตรฯ ของท่านถูกล็อค บัตรฯ จะไม่สามารถนำไปรูดใช้จ่ายได้ อย่างไรก็ตาม ธุรกรรมที่มีการตั้งค่าให้เรียกเก็บเป็นรายเดือนผ่านบัตรเครดิต (recurring payments) ที่เกิดขึ้นก่อนการล็อคบัตรฯ นี้จะยังคงมีการเรียกเก็บตามปกติ และไม่ได้รับผลกระทบจากการล็อคบัตรฯ
- หากท่านต้องการอายัดบัตรฯ ในกรณีที่บัตรฯ สูญหายหรือถูกขโมย กรุณา ติดต่อเรา งเพื่อดำเนินการออกบัตรฯ ใหม่เพื่อทดแทน
ขั้นตอนที่ 2
เปลี่ยนชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านบนซิตี้แบงก์ออนไลน์ และรหัส ATM ทันที
ขั้นตอนที่ 3
ข้อมูลความปลอดภัยทางอินเตอร์เน็ต
เพื่อให้แน่ใจว่าการใช้บริการออนไลน์แบงก์กิ้งของคุณปลอดภัย ทั้งบนคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและโทรศัพท์มือถือ ซิตี้แบงก์ขอแนะนำให้คุณทำตามวิธีง่ายๆ ดังต่อไปนี้
คลิก เพื่อขยาย และคลิก เพื่อย่อรายละเอียด
คุณไม่ควรใช้คอมพิวเตอร์สาธารณะ เช่น ในอินเตอร์เนทคาเฟ่ หรือคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น สำหรับบริการออนไลน์แบงก์กิ้ง เพราะคอมพิวเตอร์เหล่านั้นอาจจะมีโปรแกรมที่สามารถเข้าถึงและดึงข้อมูลส่วนบุคคลของคุณได้
พิมพ์ https://www.citibank.co.th ลงใน address bar โดยตรงทุกครั้ง เพื่อความมั่นใจว่าคุณได้เข้าสู่เวบไซต์ของธนาคารซิตี้แบงก์ที่ถูกต้อง
ตรวจสอบว่า URL ของเวบไซต์ธนาคารซิตี้แบงก์ ได้เปลี่ยนจาก https:// เป็น https:// และมีไอค่อนรูปกุญแจแสดงไว้ที่บริเวณด้านล่างของจอคอมพิวเตอร์ เมื่อใดก็ตามที่คุณต้องใส่รหัสเข้าใช้งานออนไลน์แบงก์กิ้ง หรือมีความจำเป็นที่เวบไซต์ต้องมีการเข้ารหัสเพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูล
คุณสามารถคลิกบนรูปกุญแจดังกล่าว ซึ่งจะปรากฏรายการรับรองเรื่องความปลอดภัยขึ้นที่หน้าจอ รายการรับรองเรื่องความปลอดภัยนี้ควรจะรับรองความปลอดภัยสำหรับ https://www.citibank.co.th
กดปุ่มออกจากระบบทุกครั้งที่คุณใช้บริการออนไลน์แบงก์กิ้งเสร็จสิ้น ไม่ควรกดปิดเบราเซอร์ (web browser) เท่านั้น
แจ้งข้อมูลการติดต่อล่าสุดของคุณกับทางธนาคารฯ ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลง เพราะจะทำให้เราสามารถติดต่อคุณได้ทันท่วงที หากมีธุรกรรมทางธนาคารที่น่าสงสัยเกิดขึ้นกับบัญชีของคุณ
ตรวจสอบบัญชีของคุณอย่างสม่ำเสมอ และติดต่อธนาคารฯ ทันทีที่ซิตี้โฟนแบงก์กิ้ง โทร.1588 หากคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับการทำธุรกรรมธนาคารทางออนไลน์
รหัสผ่านของคุณควรจะเป็นการผสมผสานกันระหว่างตัวเลขและตัวอักษร และมีความยาวอย่างน้อย 6 อักขระ โดยที่ไม่ใช้ตัวอักษรหรือตัวเลขใดๆ ซ้ำกันเกิน 1 ครั้ง
รหัสผ่านของคุณไม่ควรมีลักษณะเหมือนกับรหัสผู้ใช้ เบอร์โทรศัพท์ วันเกิด หรือข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ของคุณ
ควรจำรหัสผ่านของคุณ และไม่บันทึกข้อมูลรหัสผ่านไว้ที่ใดๆ ทั้งสิ้น รวมถึงในโทรศัพท์มือถือ
ควรเปลี่ยนรหัสผ่านของคุณอยู่เสมอ
ควรใช้รหัสผ่านที่แตกต่างกัน ระหว่างการใช้บริการออนไลน์แบงก์กิ้ง และบริการออนไลน์อื่นๆ
ควรมั่นใจว่าไม่มีใครแอบมองในขณะที่คุณกำลังใส่รหัสผ่าน หรือข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ และไม่ควรเปิดเผยข้อมูลรหัสผ่าน หรือเปิดช่องทางให้ผู้อื่นเข้าถึงรหัสผ่านของคุณได้
ไม่ควรเปิดเผยรหัสผ่านของคุณกับผู้ใดทั้งสิ้น แม้ว่าบุคคลนั้นจะอ้างว่าเป็นพนักงานของธนาคารซิตี้แบงก์ก็ตาม
ไม่ควรให้ผู้อื่นใช้งาน หรือเก็บโทรศัพท์มือถือของคุณ โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือที่มีหมายเลขซึ่งใช้ลงทะเบียนเพื่อรับ OTP จากทางธนาคารฯ
ไม่ควรเปิดเผย OTP ให้กับผู้ใดทั้งสิ้น
แจ้งข้อมูลการติดต่อล่าสุดของคุณกับทางธนาคารฯ ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงหมายเลขโทรศัพท์มือถือ
ไม่ควรเลือกบันทึกรหัสผู้ใช้ และรหัสผ่านเข้าสู่ระบบออนไลน์แบงก์กิ้ง แบบอัตโนมัติบนเบราเซอร์ (web browser)
ควรมั่นใจว่าคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือของคุณมีการติดตั้งโปรแกรม anti-virus ล่าสุด และอัพเดทโปรแกรมหรือฐานข้อมูลไวรัสอยู่เสมอทันทีที่มีการแจ้งเตือน เพื่อป้องกันไวรัสชนิดใหม่ๆ ที่อาจทำอันตรายกับอุปกรณ์ของคุณ
ควรติดตั้งโปรแกรมไฟร์วอลล์ (Firewall) เพื่อป้องกันการเข้าถึงคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือของคุณโดยผู้ไม่ได้รับอนุญาต และควรมั่นใจว่ามีการอัพเดทโปรแกรมอยู่เสมอ
ควรมั่นใจว่ามีการอัพเดทระบบปฏิบัติการบนคอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือของคุณอยู่เสมอ
ควรลบข้อมูลการใช้อินเตอร์เนททุกครั้งหลังจากการใช้งานอินเตอร์เนทเสร็จสิ้น เพื่อลบข้อมูลทางบัญชีของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่คุณใช้คอมพิวเตอร์สาธารณะ
หากคุณใช้ระบบปฏิบัติการ Windows ควรตรวจสอบให้มั่นใจว่ารายการใช้แฟ้มและเครื่องพิมพ์ร่วมกัน (File & Print sharing) ไม่ได้ถูกเปิดใช้งานอยู่ ในขณะที่คุณกำลังเชื่อมต่อกับระบบ
ทำการสำรองข้อมูล (Data Backup) ที่สำคัญของคุณอยู่เสมอ
ควรใช้เทคโนโลยีเข้ารหัสข้อมูล (Encryption Technology) เพื่อป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
ควรตั้งรหัสผ่านสำหรับการเชื่อมต่อเนตเวิร์กแบบไร้สาย เพื่อเป็นการป้องกันมิให้ผู้ใช้เนตเวิร์กที่ไม่ได้รับอนุญาตมาเข้าใช้เนตเวิร์กแบบไร้สายของคุณ
ไม่ควรเปิดเผยชื่อเนตเวิร์ก (SSID - Service Set Identifier) เพื่อป้องกันมิให้ผู้ใช้เนตเวิร์กจากภายนอกเข้ามาเชื่อมต่อเนตเวิร์กแบบไร้สายของคุณ
ควรเข้ารหัสสำหรับการเคลื่อนย้ายข้อมูล (Data Transmission Encryption) เพื่อป้องกันเนตเวิร์กแบบไร้สายของคุณ
ควรอนุญาตให้เฉพาะอุปกรณ์ที่มีการลงทะเบียนตรวจสอบ เชื่อมต่อเนตเวิร์กแบบไร้สายของคุณเท่านั้น
อีเมลล์ล่อลวง คือ อีเมลล์ในลักษณะปลอมแปลงให้ผู้รับเข้าใจว่าเป็นอีเมลล์ที่ถูกต้อง โดยมีจุดประสงค์เพื่อล่อลวงให้ผู้รับเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลทางบัญชี รหัสเอทีเอ็ม ซึ่งสามารถนำไปกระทำการทุจริตต่อไปได้ ด้วยการให้คุณตอบกลับอีเมลล์ หรือทำรายการเชื่อมโยงไปยังเวบไซต์อื่นๆ ที่ดูน่าเชื่อถือ
ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลทางการเงิน หรือบัตรเครดิต บนเวบไซต์ที่น่าสงสัยหรือไม่มีความน่าเชื่อถือ
ไม่เปิดอีเมลล์ที่มีไฟล์แนบซึ่งส่งมาจากบุคคลที่คุณไม่รู้จัก หรือลงโปรแกรมใดๆ ซึ่งไม่ทราบที่มา
ธนาคารจะไม่ส่งอีเมลล์ถึงคุณเพื่อขอรหัสผ่าน หมายเลขบัตรเครดิต หรือข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ที่เป็นความลับทั้งสิ้น คุณไม่ควรตอบรับอีเมลล์ใดๆ ที่ขอรหัสผ่าน หรือเปิดเผยข้อมูลรหัสผ่านของคุณให้กับผู้อื่นโดยเด็ดขาด
ซอฟท์แวร์สอดแนม คือ ซอฟท์แวร์ที่ออกแบบเพื่อสังเกตการณ์หรือดักจับข้อมูลการใช้อินเตอร์เนท โดยถูกติดตั้งไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ (ด้วยความยินยอมจากผู้ใช้หรือไม่ก็ตาม) เมื่อมีการดาวน์โหลดซอฟท์แวร์ เกม หรือสกรีนเซฟเวอร์ จากเวบไซต์ต่างๆ ซอฟท์แวร์สอดแนมเหล่านี้มักจะอ้างว่าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานคอมพิวเตอร์ของคุณ
ซอฟท์แวร์สอดแนมสามารถแอบดักข้อมูลและเข้าถึงรหัสผ่าน หมายเลขบัตรเครดิต และบันทึกเวบไซต์ที่ผู้ใช้เข้าถึง นอกจากนี้ ยังสามารถอ่านข้อมูลในจานบันทึก (Hard Drive) ทำให้การใช้งานบนคอมพิวเตอร์ล่าช้า เนื่องจากการใช้ทรัพยากรระบบที่สูงเกินปกติ ส่งผลไปถึงความเสียหายของเครื่องคอมพิวเตอร์ได้
ไม่ควรล็อกอินเข้าสู่ระบบซิตี้แบงก์ออนไลน์ในขณะที่คอมพิวเตอร์ของคุณมีซอฟท์แวร์เหล่านี้ติดตั้งอยู่ หากในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณมีซอฟท์แวร์ที่อ้างว่าสามารถเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่ออินเตอร์เนท หรือมีแถบเครื่องมือจากซอฟท์แวร์บุคคลที่สาม คุณอาจกำลังใช้ซอฟท์แวร์ที่มีความสามารถในการดักจับข้อมูลการใช้อินเตอร์เนท เราขอแนะนำในคุณลบซอฟท์แวร์เหล่านั้นทิ้งไป
การรักษาความปลอดภัยทางข้อมูล และการมอบประสบการณ์ในการใช้บริการออนไลน์แบงก์กิ้งอย่างปลอดภัยให้กับลูกค้า ถือเป็นสิ่งสำคัญอันดับหนึ่งของธนาคารซิตี้แบงก์
การเข้ารหัสข้อมูลแบบ
ทุกข้อมูลที่ส่งผ่านระหว่างระบบซิตี้แบงก์ออนไลน์กับคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือของคุณ จะถูกเข้ารหัสและถอดรหัสด้วยเทคโนโลยีการเข้ารหัสข้อมูล ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการเข้ารหัสข้อมูลที่ทันสมัยที่สุดแบบหนึ่งในขณะนี้
การยกเลิกการเชื่อมต่อกับระบบแบบอัตโนมัติ
หากไม่มีการใช้งานในระบบซิตี้แบงก์ออนไลน์เป็นเวลากว่า 5 นาที ระบบจะทำการยกเลิกการเชื่อมต่อของคุณกับระบบโดยอัตโนมัติ เพื่อป้องกันการเข้าถึงระบบซิตี้แบงก์ออนไลน์จากผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาต
การรักษาความปลอดภัยทางข้อมูลของลูกค้า
ธนาคารซิตี้แบงก์มีมาตรฐานที่เข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยทางข้อมูลของลูกค้า และมีการตรวจสอบภายในอย่างสม่ำเสมอ เพื่อคงไว้ซึ่งมาตรฐานนั้นๆ
หากคุณเชื่อว่ามีการละเมิดข้อมูลบัญชีของคุณทางออนไลน์โดยผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือมีธุรกรรมธนาคารทางออนไลน์เกิดขึ้นกับบัญชีของคุณ โดยที่คุณไม่ได้เป็นผู้กระทำ กรุณาแจ้งทันทีที่เจ้าหน้าที่ซิตี้โฟนแบงก์กิ้ง โทร. 1588
- เหตุละเมิดทางข้อมูลจะถูกส่งไปยังเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อประเมินความเสียหาย หากมีความสงสัยว่ามีการละเมิดข้อมูลเกิดขึ้นจริง ทางธนาคารฯ จะตรวจสอบเหตุละเมิดนั้นๆ ต่อไป
- ทางธนาคารฯ จะมีการแจ้งผลการตรวจสอบเหตุละเมิดเป็นระยะๆ หากแต่ความรวดเร็วในการค้นหาวิธีแก้ไขเหตุละเมิด ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนและรายละเอียดของเหตุละเมิดนั้นๆ
- ในระหว่างการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ของเราอาจขอข้อมูลเกี่ยวกับเหตุละเมิดของคุณเพิ่มเติม เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถแก้ไขเหตุละเมิดได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ผู้ใช้บริการออนไลน์แบงก์กิ้ง มีหน้าที่และความรับผิดชอบในการป้องกันตนเองจากภัยทางออนไลน์ ดังนี้
- คุณมีหน้าที่ความรับผิดชอบในการเก็บรหัสผ่านของคุณเป็นความลับ และมิให้ผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้าถึงหรือค้นเจอรหัสผ่านนั้นๆ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม รวมไปถึงการตรวจสอบให้มั่นใจว่าไม่มีใครแอบมองในขณะที่คุณกำลังใส่รหัสผ่านของคุณ
- ไม่ควรใช้คอมพิวเตอร์สาธารณะ เช่น ในอินเตอร์เนทคาเฟ่ หรือคอมพิวเตอร์ที่ไม่น่าเชื่อถือ สำหรับบริการออนไลน์แบงก์กิ้ง
- หากคุณเชื่อว่ามีการโจรกรรมหรือการสูญหายของหมายเลขบัตรเครดิต และ/หรือ รหัสเอทีเอ็มของคุณ หรือมีธุรกรรมธนาคารทางออนไลน์เกิดขึ้นกับบัญชีของคุณโดยไม่ได้รับอนุญาต กรุณาแจ้งทันทีที่เจ้าหน้าที่ซิตี้โฟนแบงก์กิ้ง โทร. 1588
- กรุณาอ่าน และทำตามวิธีการใช้บริการออนไลน์แบงก์กิ้งอย่างปลอดภัยของธนาคารซิตี้แบงก์ เพื่อให้มั่นใจถึงความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคล คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือของคุณ
- ควรมั่นใจว่าคอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือของคุณไม่มีความเสียหายทางอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ การสูญหายของข้อมูล และไม่มีไวรัสต่างๆ ติดตั้งอยู่ในเครื่อง
- ไม่ควรเปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือวางโทรศัพท์มือถือทิ้งไว้ ในขณะที่คุณกำลังใช้บริการออนไลน์แบงก์กิ้งง
- คุณมีหน้าที่ความรับผิดชอบในการอ่าน และทำตามข้อกำหนดและเงื่อนไขในการใช้บริการออนไลน์แบงก์กิ้ง ที่คุณได้ตกลงยินยอมก่อนเข้าใช้บริการออนไลน์แบงก์กิ้งของธนาคารซิตี้แบงก์